บทความนี้จะมารีวิวรองเท้าหนังแบรนด์ Church’s รุ่น Totonto ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีประวัติมาอย่างยาวนานมากตั้งแต่ช่วงปี 1675 สไตล์รองเท้าที่มีความคลาสสิคเป็นเอกลักษณ์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับรองเท้า Dress shoes ทั่วโลก ยังคงอยู่ในตัวรองเท้าของ Church’s มาตลอด และวันนี้ผมจะนำ Half Brogue Oxford มารีวิวให้ทุกคนได้เห็นกันครับ
ประวัติของแบรนด์ Church’s โดยคล่าวๆ
Church’s เป็นแบรนด์ Shoemaker ที่ทำรองเท้าหนังมาตั้งแต่ปี 1675 ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 รองเท้าที่แบรนด์นี้ผลิตขึ้นมามีหลาดหลายมาก ทั้ง Dress shoes และ Boots จนทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังมาตลอด Prada Group เข้ามาจึงซื้อกิจการของแบรนด์ในปี 1999 เป็นการการันตีความดีงามของแบรนด์นี้
 |
| Church's Toronto (Half Brogur Oxford) |
Totonto (Semi-brogues) Custom Grade เป็นรุ่นที่เป็นสไตล์ Business (ทางการ) มาพร้อมหนังวัวแท้สีดำ (Full grain) ขัดเงา ทรงเท้ายาวกว่าและอุ้งเท้าแคบกว่าทรงทั่วไป ทำให้เท้าดูเรียวยาว และดูมีส่วนเว้าส่วนโค้ง เหมาะกับการใส่คู่กับชุดสูทแบบเป็นทางการเช่น สีเทาเข้ม สีกรมท่า และสีดำ ทำให้คุณดูเป็นนักธุรกิจหรือชนชั้นสูงที่มีสไตล์ แต่งตัวเก่ง และหรูหรา
เริ่มต้นรีวิวโดยละเอียด
1. หุ่นรองเท้า หรือ Last เป็น Last หมายเลข 136 ซึ่งเป็นหุ่นรองเท้าที่เป็นหุ่นหลักของแบรนด์ ส่วนอุ้งเท้าจะค่อนข้างแคบ และเท้าจะยาว ปลายเท้าของหุ่นจะเป็นปลายค่อนข้างแหลมและยาวกว่าปกติ ทำให้รองเท้าคู่นี้ต้องใส่ไซส์ที่ใหญ่กว่าปกติหนึ่งเบอร์ถึงจะพอดีกับเท้าเอเชียแบบผม และพื้นที่บริเวณหัวรองเท้าจะเหลือประมาณ 2.5-3 ซม. เลยทีเดียว
 |
| หุ่นรองเท้าที่เรียวยาวของ Toronto |
2. หนังวัว Full grain ขัดเงาด้วยน้ำยาสูตรของ Church’s ทำให้รูขุมขนของหนังถูกเติมจนเต็ม รองเท้าจึงเงาเป็นเหมือนหนังขัด (Polished Leather) แต่ด้วยการใช้วัตถุดิบเป็นหนังที่คุณภาพดี ทำให้การใช้งานในระยะยาวของรองเท้าคู่นี้ ไม่ทำให้เกิดภาวะ หนังแตก ที่บริเวณรอยพับ และอายุการใช้งานก็ยาวนาน
3. สไตล์ Half Brogue หรือ Semi Brogue ของรุ่น Toronto ทำให้รองเท้าคู่นี้มีความเป็น Formal อยู่แต่ก็ไม่เรียบร้อยมากเท่ากับ Cap-toe Oxford ธรรมดา หากคุณอยากจะแต่งตัวให้เป็นทางการ แต่ไม่อยากให้คนมองว่าคุณเป็นคนที่เคร่งเครียดเคร่งขรึมจนเกินไป สไตล์นี้จึงเหมาะสมมาก และยังให้ลุคที่ Sophisticated กับคนใส่ด้วย
 |
| การออกแบบที่ยอดเยี่ยมและคลาสสิคของ Church's |
4. ลายฉลุที่หัวรองเท้าก็ทำได้ดีมาก มีการเติม Medallion คือส่วนลายฉลุที่อยู่บน Cap toe เพื่อทำให้มีลวดลายสวยงาม การฉลุลายในส่วนของบริเวณ Throat line หรือคอของรองเท้าก็สวยงาม รูร้อยเชือกรองเท้า หรือ eyelet มี 6 คู่ (คล้าย Allen Edmonds)
 |
| ลายฉลุ Medallion บนหัวรองเท้าทำให้มีความคลาสสิคมากขึ้น |
5. งานซับในรองเท้า หรือ Lining ของรองเท้าคู่นี้พิเศษมาก เนื่องจากซับในเป็นผ้าผสมหนังวัว โดยส่วนของผ้าจะครอบคลุมบริเวณของส่วนที่เคลื่อนไหวเยอะ คือ อุ้งเท้า, ข้อพับเท้า และซับในหนังวัวจะกินพื้นที่บริเวณรูร้อยเชือก และส่วนเท้าด้านหนังที่ต้องมีการเสียดสีบ่อย เพื่อให้รองเท้ายืดหยุ่นดี เคลื่อนไหวสะดวก แต่ก็แข็งแรงอายุการใช้งานยาวนาน เป็นการออกแบบที่คิดถึงผู้ใส่อย่างแท้จริง
6. งานพื้นในรองเท้า หรือ Insole จะเป็นพื้นในหนัง เพราะเนื่องจากใช้กระบวนการผลิต คือ Goodyear welt ทำให้เราไม่เห็นรอยตะเข็บใด ๆ ในส่วนพื้นใน ส่งผลให้รองเท้าคู่นี้มีความแข็งแรงที่สูงกว่าการตัดเย็บแบบอื่น รองเท้าด้านในพื้นจะมีการใส่ Cork ไว้เพื่อให้ไม่คอร์คปรับเป็นเบ้ารับเท้าของเราเมื่อใส่ไปสักพัก ส่งผลให้เรายืนได้สบายขึ้น
7. พื้นนอกของรองเท้าทำมาจากหนัง โดยสามารถนำไป Resole ได้ กรณีที่พื้นสึกเยอะมาก โดยช่างจะแกะพื้นนอกออก เปลี่ยนคอร์คเก่าออกไป ใส่พื้นหนังใหม่และเย็บติดด้วยเครื่อง ส่งผลให้รองเท้าเหมือนใหม่ แต่เนื่องจากยังไม่มีช๊อปในไทยเช่นกัน ทำให้การส่งซ่อมต้องทำที่ร้านเฉพาะทางเท่านั้น
สำหรับผม รองเท้า Church’s Toronto สีดำคู่นี้ คงจะเป็นรองเท้าที่เหมาะสมที่สุดที่จะใส่ไปงานทางการ เพราะการออกแบบที่เข้ากันกับชุดสูท หากผมจะต้อง Dress-up ไปเป็นพิธีกรงานอะไร หรือต้องไปทำงานที่ความทางการสูง ผมจะใส่รองเท้าคู่นี้ไปอย่างแน่นอน
สำหรับคนที่สนใจรองเท้า Church’s ปัจจุบันมีขายอยู่ในช่องทางต่อไปนี้ครับ
• ช่องทางออนไลน์: Church’s, Herring, Mr. Porter
• Church’s store: หน้าร้านส่วนใหญ่อยู่ในแถบยุโรป แต่ก็มีที่ใกล้ๆไทย คือ สิงคโปร์, ฮ่องกง,จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ครับ
0 ความคิดเห็น