รีวิวรองเท้าหนังผู้หญิงจากร้าน ShoesShi

by - เมษายน 14, 2562


บทความนี้จะมารีวิวรองเท้าหน้าสำหรับผู้หญิง ร้าน ShoesShi ตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้า Union Mall ตรงข้ามเซ็นทรัลฯ ลาดพร้าวครับ โดยรองเท้าที่ผมจะนำมารีวิวในวันนี้จะเป็นทรง Horsebit Belgian Loafer จากร้าน ShoesShi ซึ่งเป็นรองเท้าสไตล์คลาสสิคแบบ Unisex คือ ใช้ได้ทั้งชายและหญิงครับ

รองเท้าทรง Horsebit Belgian Loafer
แบรนด์ ShoesShi เป็นรองเท้าที่มีเจ้าของเป็นคนไทยครับ ร้านอยู่ที่ชั้น 2 ห้างยูเนี่ยนมอลล์ ร้านนี้ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอเลยครับ หาง่ายมาก สินค้าในร้านทั้งหมดเป็นรองเท้าหนัง หรือรองเท้า Dress Shoe ส่วนใหญ่เป็นรองเท้าผู้ชาย แต่รองเท้าสำหรับผู้หญิงก็มีเหมือนกันครับ ในร้านรองเท้ามากมายหลายทรงให้เลือก เช่น Boots, Oxfords, Derby, Loafer รองเท้าแต่ละชนิดก็มีหนังให้เลือกหลายแบบ และมีหลายสี เช่น หนัง หนังแท้ (Full grain), Calf skin (หนังลูกวัว), หนังขัด (Polished calf), หรือแม้กระทั่งหนังกลับซูเอด (Suede) ก็มีให้เลือกหลายสีมากครับ
Shoesshi แบรนด์รองเท้าคนไทย
รองเท้าหนังคู่นี้เป็นรองเท้าที่ผมซื้อให้น้องสาวเป็นของขวัญปีใหม่ครับ ทรงเป็น Loafer คือ เป็นแบบสวมนะครับ ไม่มีซัพพอร์ทด้านข้างทำให้รองเท้าไม่แข็งจนเกินไป ใส่สบายๆ บริเวณส้นมีการเย็บหนังเว้าขึ้นมาเพื่อให้เหยียบส้นได้เล็กน้อย (แต่แนะนำว่าอย่าเหยียบเลยจะดีกว่านะครับ) แผ่นหนังบริเวณหลังเท้าจะเป็นคนละชิ้นกับตัวรองเท้าครับ (คือส่วนที่มีอะไหล่โลหะแปะอยู่) มีลักษณะคล้ายเม็ดอัลมอนด์ ทำให้เราเรียกรองเท้าคู่นี้ว่า Belgian Loafer ในส่วนของด้านบนรองเท้า เจ้าของรองเท้าชอบอะไหล่แบบ Horsebit เป็นอะไหล่โลหะ (จริงๆที่ร้านมีแบบไม่มีอะไรเลย และก็เป็นพู่แบบ Tassel ก็มีนะครับ) รองเท้าคู่นี้เลยมีชื่อเต็มว่า "Horsebit Belgian Loafer"
อะไหล่โลหะ เรียกว่า Horsebit
Horsebit Loafer ด้านข้างเรียวยาว ทำให้ใส่แล้วดูขายาว

สเป็ครองเท้าโดยรวม


  • หนังนอกเป็นหนังนิ่มๆ คล้ายหนังลูกวัว Calf Skin สีขาว แต่เป็นขาวออกครีมๆ สีสวยดีครับ แต่เวลาใส่คงต้องระวังเพราะเลอะง่ายนิดหน่อย แต่วิธีการทำความสะอาดก็ใช้แค่ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นเช็ดเบาๆก็ออกแล้วครับ
    แผ่นหนังด้านบนรูปอัลมอนด์ ช่วยปิดหลังเท้าได้พอดี และดูเรียวยาว
  • หนังซับ หรือซอฟใน น่าจะทำมาจากหนังหมูนะครับ เพราะดูจากรอยผิวหนังและผิวสัมผัส ซึ่งคุณสมบัติที่ดีที่สุดคือ ความนิ่มและยืดหยุ่นของหนังหมู จะทำให้ใส่สบายมาก แต่เดินหนักๆจะขาดได้ง่ายนะครับ
    ซอฟในหนังหมู ทำให้พื้นนิ่มสบาย มีความยืดหยุ่นสูง
  • อะไหล่ เป็นอะไหล่โลหะ คาดว่าเป็นเหล็กผสม เพราะถ้าเป็นเหล็กทั้งหมดจะเห็นสนิมได้ หรือสนิมอาจจะเปื้อนบนหนังได้เมื่อใช้ไปสักระยะเวลาหนึ่ง
  • พื้นในรองเท้า เป็นพื้นหนังหมูเช่นกัน แต่มีฟองน้ำนิ่มๆเสริมให้ 1 ชั้น ทำให้ใส่สบายมากยิ่งขึ้นครับ ฟองน้ำช่วยรับแรงกระแทกเวลาเดินได้ดี เดินทั้งวันก็ไม่เมื่อยครับ
    พื้นในหนังหมูเสริมฟองน้ำ ใส่สบายนุ่มนิ่ม
  • พื้นนอกรองเท้า ทำมาจากยางพาราครับ ซึ่งพื้นยางพาราที่ทางร้านใช้เป็นพื้นยางพาราเต็มแผ่น และบริเวณพื้นส้นเท้ายังมีการเสริมพื้นหนังให้อีก 2 ชั้นก่อนจะเป็นพื้นยางพาราที่อยู่ชั้นนอกสุด ทำให้เราได้พื้นยางที่แข็งแรงในขนาดเต็มแผ่น
    พื้นรองเท้าเสริมด้วยพื้นหนัง 2 ชั้น ทำให้สูงขึ้นและมีความแข็งแรง

  • การตัดเย็บ เป็นการตัดเย็บด้วยเส้นด้ายขนาดใหญ่สีขาว ใช้วิธีการที่ชื่อ Blake Stich เดินจักรด้วยเครื่อง เวลาเย็บจะเย็บทะลุจากพื้นในรองเท้า ทะลุออกมาถึงพื้นนอกรองเท้า เลยมั่นใจได้ว่ารองเท้าคู่นี้แข็งแรงทนทานแน่นอน
    พื้นยางพาราเต็มแผ่น ตัดเย็บอย่างแข็งแรง
  • บริการหลังการขาย หากมีการเสียหายระหว่างใช้ ให้เก็บอะไหล่กลับไปซ่อมที่ร้านได้ อาจมีค่าบริการในการซ่อมนิดหน่อย แต่ทุกอย่างที่ได้กลับมาจากการซ่อมจะใกล้เคียงของเดิมทุกอย่าง


ซึ่งรองเท้าคู่นี้ สนนราคาอยู่ที่ 1,590 บาทครับ ทางเจ้าของร้านบอกว่ารองเท้าแต่ละคู่ผ่านการตรวจสอบมาแล้วทั้งหมด และยังแนะนำวิธีการดูแลรองเท้าคู่นี้ให้ด้วยครับ ผมสงสัยอะไรผมก็ปรึกษาเค้าเลยเพราะได้ความรู้เยอะดีด้วยครับ (ถึงเค้าจะดูดุๆเสียงดังๆ แต่เค้าใจดีนะครับ ^^)

รีวิวจากน้องสาวของผม 

รองเท้านิ่มดีมาก ไม่เคยกัดเลยแม้ว่าจะใส่ครั้งแรก ใส่สบายมาก เดินเยอะๆก็ไม่เมื่อย แต่เนื่องจากเป็นสีขาว เลยต้องระมัดระวังการเดินเป็นพิเศษเพราะเลอะง่าย (ผมได้แต่คิดว่า เลือกเองไม่ใช่เรอะ!?!) แต่รองเท้าคู่นี้มักจะใส่ในวันที่ใส่เสื้อสีขาวหรือสีครีม หรือจับคู่กับกระเป๋าสีขาวและครีมเช่นกัน ถ้าแต่งตัวสไตล์สีเอิร์ทโทนก็เข้ากัน ถ้าใส่ชุดลายดอกก็เลือกกางเกงสีอ่อนก็ไปด้วยกันได้ครับ ถ้าอยากใส่ในวันทางการก็เป็นกระโปรงยาวสีครีมครับ

ความเห็นของผมเอง

ปกติรองเท้าหนังสำหรับผู้หญิง ส่วนใหญ่จะเป็นแบบพื้นบางๆ ติดกาว และก็ดูก๋องแก๋งมาก เพราะว่าผู้หญิงมากจะเน้นใส่รองเท้าหลายคู่และเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลยอาจจะทำให้ไม่ค่อยมีแบรนด์ตามท้องตลาดเน้นทำของดีราคาแพงเยอะ ซึ่งรองเท้าพวกนี้จะพังง่ายมากๆ ราคาประมาณ 250 หรือ 300 บาท ใส่ได้ 3 เดือนก็พัง เพราะกาวหมดบาง พื้นสึกบ้าง หรือพังไปก่อนบ้าง


รองเท้าแบรนด์ ShoesShi คู่นี้ถ้าพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ผมคิดว่าคงใช้ได้ถึง 5 ปี ถ้าไม่ใช้อย่างรุ่นแรงมากจนเกินไป แต่ดูจากรูปทรงแบบนี้คงไม่มีใครใส่ไปทำกิจกรรมหนักๆแบบ Sneaker หรอกครับ ดังนั้น ผมเอาราคา 1,590 บาท มาหารด้วยจำนวนวันทั้งหมดใน 5 ปี ผมว่ามันคุ้มค่ามากที่จะลงทุนครับ
รองเท้าผู้หญิงทรง Horsebit Loafer 
ข้อควรระวังของรองเท้าคู่นี้คงจะเป็นที่การเน้นให้ใส่สบายมากๆ จนทำให้รองเท้าบอบบางมากครับ การแก้ปัญหาคือการเพิ่มสเป็ค เช่น หนังซับในแกะ หรือพื้นหนัง แต่ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต จะทำให้สินค้าราคาแพงมากขึ้น ผมเลยมองว่าการออกแบบด้วยวัสดุและราคาประมาณนี้ก็คุ้มค่าอยู่แล้ว ไม่มีข้อเสียอะไรครับ
รองเท้าหนังสีขาวเข้ากับสี Earth Tone 
ถ้าคุณกำลังมองหารองเท้าหนังที่ใส่สบาย, มีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย, และมีความแข็งแรง ShoesShi ก็เป็นอีกแบรนด์ที่คุณจะต้องมองหา ด้วยเหตุผล คือ ราคาคุ้มค่ามากในการลงทุน และบริการหลังการขายที่ดี มีให้เลือกทั้งของผู้ชายและผู้หญิงครับ

You May Also Like

0 ความคิดเห็น