วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การส่งรองเท้าคู่โปรดของผม Double Monk Strap ไปซ่อมที่ศูนย์ซ่อมของ Clarks ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โซนรองเท้าผู้ชายครับ

พื้นรองเท้าที่เป็นพื้นหนังและเสริมแผ่นกันลื่นเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากรองเท้าคู่นี้ผ่านการใช้มาอย่างหนักหน่วง และพื้นรองเท้า (Outsole) นั้นสึกจนเข้าไปถึงชั้นใน หากยังใช้งานต่อไป รองเท้าอาจจะต้องพังไปอย่างถาวรแน่ๆ ผมจึงตัดสินใจส่งไปซ่อมก่อน (ขออภัย พอดีผมลืมถ่ายภาพก่อนจะส่งไปให้ทาง Clarks) โดยทางพนักงานที่หน้าร้านเคยบอกผมว่าหากมีการซ่อมแซมสามารถเอามาส่งหน้าร้านได้เลยครับ

Double Monk Strap ที่เป็นพื้นหนัง ถูกใช้งานจนพื้นสึก

หลังจากพูดคุยกับพนักงาน Clarks ที่โซนรองเท้าผู้ชายของห้าง Emporium ก็สรุปได้ว่า ทางหน้าร้านจะรับรองเท้าของลูกค้าที่มาส่งซ่อมเอาไว้ก่อน จากนั้นพอถึงรอบส่งของ ก็จะส่งรองเท้าของเราไปที่ช่างซ่อมรองเท้า ทางพนักงานจะคุยกับช่างว่าต้องซ่อมรองเท้าส่วนไหนบ้าง แล้วช่างจะตีราคาออกมาก่อน แล้วทางพนักงานจะติดต่อลูกค้าก่อนเกี่ยวกับราคาที่ช่างเสนอมา หากลูกค้ารับได้กับราคาซ่อม พนักงานก็ส่งให้ช่างซ่อมรองเท้าดำเนินการต่อทันที แต่ถ้าหากไม่พอใจกับราคาซ่อม ทางพนักงานจะส่งไปรษณีย์กลับคืนสู่ลูกค้า

ผมเคยเอารองเท้าคู่นี้ไปให้กับทางร้านอื่นๆซ่อม แต่ว่ายังไม่มีร้านไหนสามารถซ่อมได้ ผมเลยตัดสินใจส่งให้กับช่างของ Clarks ไปเลย

สภาพรองเท้าตอนที่ทางศูนย์ส่งกลับมา ค่อนข้างมอมแมมเลยทีเดียว

ผมแจ้งทางพนักงานว่า ต้องการเปลี่ยนพื้นรองเท้าด้านนอกที่สึกเป็นพื้นใหม่ และอยากติดแผ่นกันลื่นด้วย เพราะครั้งต่อไปจะได้เปลี่ยนแค่แผ่นกันลื่นพอเมื่อพื้นรองเท้าเริ่มสึกอีกครั้ง ทางพนักงานจดลงสมุดและรับรองเท้าของผมไป (โดยที่ไม่มีใบส่งซ่อมหรือใบยืนยันอะไรเลย ขอแค่ชื่อและเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น)​ ผมค่อนข้างกังวลเล็กน้อยเพราะหากส่งรองเท้าไปซ่อมโดยไม่มีข้อมูลอะไรให้ผมใช้ติดต่อกับทาง Clarks หรือยืนยันตัวตนเวลารับของ ก็อาจเสี่ยงที่ของจะสูญหายได้

ผมมอบรองเท้าให้พนักงานไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2018 ทางหนักงานบอกว่า กระบวนการทั้งหมดจะเริ่มหลังสงกรานต์ ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือนสำหรับเขตกรุงเทพฯ และ 2 เดือนสำหรับต่างจังหวัด เนื่องจากจะต้องรอส่งรองเท้าให้กับช่างตามรอบ, รอช่างซ่อม, และรอรับรองเท้ากลับจากช่างเพื่อคืนหน้าร้าน

วันที่ 02 พฤษภาคม 2018 ทางพนักงานได้ติดต่อกลับมาว่า ช่างประเมินค่าซ่อมพื้นรองเท้า 1,400 บาท แต่พอผมสอบถามไปว่า แล้วราคานี้รวมแผ่นกันลื่นมั้ย ทางพนักงานแจ้งว่ารวมแล้ว ผมเลยยืนยันการส่งซ่อมแก่ช่างทันที เพราะหากเทียบราคาการซ่อมพื้นที่ร้านข้างนอกก็จะประมาณ 2000 บาท ติดแผ่นกันลื่นหน้าหลังก็ 800 บาทแล้วครับ (ราคาการซ่อมอาจแตกต่างกันไป)

พื้นใหม่ถูกเย็บด้วยวิธีการ Blake stich และเสริมแผ่นกันลื่นเพื่อความแข็งแรง

วันที่ 31 พฤษภาคม 2018 ผมรู้สึกว่าระยะเวลาการซ่อมนานเกิน 1 เดือนแล้ว ผมเลยติดต่อทาง Facebook ของ Clarks Shoes ไป ทางเพจของ Clarks จึงดำเนินการประสานงานให้ โดยขอชื่อนามสกุลและรายละเอียดเกี่ยวกับรองเท้าของเราว่า ส่งซ่อมที่ไหน เมื่อไหร่ แล้วก็ไปตรวจสอบสถานะรองเท้าให้

ไม่กี่นาทีต่อมา มีเบอร์ติดต่อมาจากทาง Clarks ว่า พนักงานหน้าร้านจะเข้ามาเอาของจากศูนย์ซ่อมในวันนี้ และรองเท้าของผมจะเดินทางถึงหน้าร้านที่ส่งซ่อมในบ่ายวันที่ 1 มิถุนายน 2018 ซึ่งผมสามารถเข้าไปรับรองเท้าได้หลังจากนี้ และชำระเงินค่าซ่อม 1,400 บาทที่เคาเตอร์ได้เลยครับ

หลังจากที่ไปถึงหน้าร้านวันที่ 04 มิถุนายน 2018 รองเท้าของผมก็ถูกส่งมารอที่หน้าร้านเรียบร้อย ซึ่งวิธีการชำระเงินจะไม่ใช่การจ่ายให้กับทางห้าง แต่เป็นการโอนเข้าบัญชีที่ทาง Clarks ให้เลขมา หรือสามารถจ่ายเงินสดที่พนักงานของ Clarks ได้เลยครับ

เมื่อรับของแล้วผมเปิดเช็คของก็พบว่า รองเท้าค่อนข้างสกปรกและมอมแมมมากครับ เปื้อนคราบน้ำมันและกาวบ้างเล็กน้อย แต่พื้นของรองเท้าแข็งแรงดีครับ ดูจากวิธีการเย็บ น่าจะเย็บแบบ Blake (คือการเย็บรองเท้าแบบปกติครับ) แล้วก็ติดแผ่นกันลื่นมาให่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเรียบร้อยดีครับ

ขัดรองเท้าให้สะอาดหลังจากที่ได้รับมาจากศูนย์

โดยรวมแล้ว การส่งรองเท้าที่ศูนย์ Clarks ผมค่อนข้างพอใจก็ผลงานการซ่อมนะครับ รองเท้าออกมาแข็งแรงและราคาไม่แพงจนเกินไป แต่กระบวนการรับซ่อมยังไม่ค่อยเป็นระบบ และใช้เวลาซ่อมนานเกินกว่าที่แจ้งไว้เล็กน้อย (1 เดือน 14 วัน เพราะว่าติดสงกรานต์)

สำหรับใครที่มีรองเท้า Clarks ที่ใช้งานมานานจนพื้นสึก ผมแนะนำว่าอย่าพึ่งทิ้งครับ ลองไปส่งศูนย์ซ่อมดูก่อน เราอาจจะได้รองเท้าสุดที่รักเรากลับคืนมาและใช้ต่อได้อีกนานเลยครับ