1. ความเป็นทางการสูง เนื่องจากรูปทรงที่ปิดเท้ามิดชิด ทำให้เห็นเนื้อเท้าของเราน้อยมาก การซ่อนลิ้นรองเท้าไว้ข้างใน และลวดลายที่น้อย ทำให้ดูสุภาพเรียบร้อยมาก จึงทำให้รองเท้าคู่นี้มี ระดับความสุภาพสูงจนสามารถนำมาสวมคู่กับทักซิโดไปงานกาล่าดินเนอร์ได้เลยครับ
2. หนังเต็มแผ่น มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น เพราะช่างทำรองเท้าจะต้องหาหนังแผ่นใหญ่เพียงพอที่จะเอามาทำรองเท้า ไม่สามารถตัดต่อจากหนังชิ้นเล็กๆ เลยค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้หนังที่คุณภาพดี แผ่นหนังทั้งแผ่นจะค่อยๆปรับรูปร่างจนเข้ากับรองเท้าของเราจนเกิดลวดลายเอกลักษณ์ที่เข้ากับเราโดยเฉพาะ
3. เรียบง่ายแต่สุขุม เนื่องจากมีการลดทอนลวดลายที่ไม่จำเป็นออก ทำให้เราสามารถ Match เข้ากับการแต่งตัวสไตล์ Minimal ได้ดี แต่ก็ยังให้ลุคที่ดูสุภาพ และใส่ไปทำงานได้ หรือบางคนอาจใส่เป็น Everyday Shoe เลยก็ได้

ข้อจำกัดของการใส่ Wholecut Oxford

1. รอยพับของหนังยับย่นได้ง่าย เพราะ รองเท้าที่ไม่มีการเย็บตามรอยต่างๆ จะส่งผลให้การยับย่นนั้น เกิดขึ้นตามท่าทางการเดินของเรา สำหรับคนที่ไม่ชอบให้รองเท้ายับและดูเก่า การการทาครีมบำรุงหนังแล้วใส่ดันทรงรองเท้า (Shoe tree) เอาไว้หลังใช้งาน แต่สำหรับคนที่ชอบรอยพับ ให้ทาครีมอย่างเดียวแต่ไม่ต้องใส่ดันทรงรองเท้าครับ
2. ทรงรองเท้าที่สวยงามจะหายาก เนื่องจาก Wholecut Oxford นั้นไม่มีลวดลายใดๆ ความสวยงานจึงเกิดจากหุ่นของรองเท้าที่สวยเท่านั้น เราอาจจะต้องพิจารณาถึงส่วนเว้าส่วนโค้งเป็นพิเศษ เพราะเมื่อเราใส่รองเท้าแล้ว เราอาจจะได้รองเท้าที่ทำให้ดูอ้วนตันได้ ลองใส่แล้วมองหลายๆด้านดูก่อนตัดสินใจซื้อครับ
3. การถอดและใส่แต่ละครั้งค่อนข้างใช้เวลา เนื่องจากการตัดเย็บที่ปิดหมดทุกส่วน ทำให้การถอดรองเท้า ต้องแก้เชือกออกมา ส่งผลให้เกิดการสะดุดเมื่อเราจำเป็นจะต้องไปงานที่ต้องอาศัยความคล่องตัว

1. MANGO MOJITO เป็นแบรนด์ที่สวยใช้หนังฟอกฝาดทาสีด้วยพู่กัน สวยงามและดูไฮโซมากๆ การตัดเย็บแข็งแรง ราคาค่อนข้างสูง ตัวอย่างรองเท้าคู่สีดำเป็นของแบรนด์นี้ครับ
2. Bell Shoes เป็นร้าน Tailored-made รองเท้าทรงสวย ราคาเหมาะสม ตัดเย็บดี ใช้เวลาในการตัดค่อนข้างนาน แต่ก็คุ้มที่จะรอครับ
3. Arcobareno ราคาไม่แพงมาก (คู่สีน้ำตาลอ่อนมาจากร้านนี้ครับ) อยู่โซนสยาม ติดกับ center point ครับ